จากกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งทหารจากกองทัพภาคที่1 เข้าตรวจค้นกระชับพื้นที่วัดพระธรรมกายเพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย นั้นล่าสุดวันนี้ เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์ชื่อดัง จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ได้เขียนบทความเรื่องดังกล่าวไว้ด้วย โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจทั้งหมดดังนี้
ถึงกาล "อาณาจักรจานบิน" ล่ม!
ต้องบอกว่า "ธรรมกาย-ธัมมชโย" เป็นปัญหาระดับชาติ! "อำนาจปกติ" เอาไม่อยู่...........ต้องถึงระดับนายกฯ ใช้อำนาจพิเศษ "ม.๔๔" ประกาศให้บริเวณวัดพระธรรมกาย ในพื้นที่ร่วม ๒,๐๐๐ ไร่ เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ! "คนในห้ามออก-คนนอกห้ามเข้า" แล้วใช้กำลังทหาร-ตำรวจ-ดีเอสไอ นับพัน เข้าไปตรวจค้นภายในอาณาจักรจานบิน เป็นแผนปฏิบัติการที่เรียกว่า "หมดจด-รวบรัด" ไร้ช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามแทงแยงกลับ ทั้งด้านกฎหมาย ด้านคณะสงฆ์ และด้านสิทธิมนุษยชน
เพราะการมาของ "กองกำลังรัฐ" ครั้งนี้ นอกจากไม่นำอาวุธใดๆ ติดตัวมาแล้ว ยังเป็นการมาแบบที่เรียกว่า "มีพระนำหน้า"!
คือนิมนต์ "พระเทพรัตนสุธี" เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะเจ้าพนักงาน และมีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมเข้าตรวจค้นด้วย
ส่วนทหาร เป็นเพียงหน่วยดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ภายนอก คอยกำกับหลังให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่ง ม.๔๔
"คนในห้ามออก-คนนอกห้ามเข้า" นั่นแหละ........ไม่ว่าหัวโล้น-หัวดำ จะมาทำหัวหมอ ร้อยเล่ห์-พันกะล่อน เข้าๆ ออกๆ เหมือนอย่างที่เคยทำแต่ก่อน ไม่ได้เด็ดขาด ขืนดึงดัน...จับ ข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่ง ม.๔๔! ใครจะโวยวายกะให้ดังถึงหูแนวร่วม เช่น พวกฮิวแมนไรต์วอตช์ ก็ไม่เป็นไร เพราะมีเจ้าหน้าที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนร่วมมาดูให้เห็นกับตาด้วย
เท่าที่ผมสังเกต การที่รัฐบาลใช้ ม.๔๔ ควบคู่หมายค้นจากศาลครั้งนี้ เจตนา ไม่ได้อยู่ที่ตัวธัมมชโย แต่อยู่ที่ต้องการทำให้ประจักษ์ว่า........."กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย" ใครจะอยู่เหนือไม่ได้ และใครจะเหิมเกริมตั้งกองกำลังรัฐซ้อนรัฐ ทำเป็น "ผีบุญ ๒" ก็ไม่ได้ และกฎหมายจะใช้ได้เฉพาะกับคนหงอ คนกระจอกงอกง่อย แต่กับคนมีอิทธิพล มีบารมี มีเงิน ที่แข็งขืน ไม่สามารถใช้ได้ ก็ไม่ได้ นี่...รัฐบาล จะยอมให้บ้านเมือง ๒ มาตรฐาน อย่างนี้ไม่ได้! ดังนั้น..........เมื่อความอีนุงตุงนัง ทั้งเรื่องสงฆ์-เรื่องฆราวาส และเรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช รัฐบาลค่อยๆ สะสางเข้ารอย-เข้าตะเข็บแล้ว ก็ถึงวาระชำระ "ธรรมกาย-สมีโย" ละคราวนี้
เพราะประกอบด้วยกาล ประกอบด้วยความลงตัว ที่จะรวบรัดจัดการเรื่องราวเข้าสู่ระบบ-ระเบียบ ตามกระบวนการศาลและกระบวนการสงฆ์ นายกฯ ประยุทธ์จึงใช้ดาบอาญาสิทธิ์ ม.๔๔ เมื่อวานนี้ไง! การใช้ดาบครั้งนี้ (๑๕ ก.พ.๖๐) ต้องเรียกว่า "ดาบปราบมารศาสนา" ก่อนที่จะปล่อยไว้โตใหญ่เป็น "พญามารหัวโล้น" สมคบกับ "พญามารหน้าเหลี่ยม"
ยึดทั้งศาสนจักรและอาณาจักร แล้วแบ่งกันครอง!
ก็ต้องเข้าใจกันไว้ด้วยว่า ก่อนๆ เข้าค้นตามหมายศาล ซึ่งมีกำหนดวัน-เวลาค้น แต่คราวนี้ นอกจากหมายศาล ยังมี ม.๔๔
ตราบที่คำสั่งตาม ม.๔๔ ยังไม่ยกเลิก ตำรวจ-ดีเอสไอ ปฏิบัติการจะกี่วัน-กี่คืน ได้ตลอด นี่เห็นว่า จะค้นต่อเนื่อง ๑๐ วัน!แล้วไม่มีการระดมสาวกมาอุดประตู มาสวดมนต์ล้านจบ เป็นเล่ห์ขัดขวาง-ต่อต้านการเข้าตรวจค้นเหมือนครั้งก่อนๆ หรือ?
ประเด็นนี้ ต้องยอมรับว่า ฝ่ายบ้านเมืองเขาใช้แผน "ยอมลอดหว่างขา รอจังหวะคว้าทีเดียวทั้งพวง"! กับปฏิบัติการเมื่อวานครั้งเดียว แลกกับยอมให้ชาวบ้านด่าว่าไอ้แหยมาทั้งปี ถือว่า....คุ้ม
คือปัญหาธรรมกายนั้น........ปล่อยทิ้งไว้จนโตใหญ่ แผ่กิ่งก้านใบหนาเหมือนต้นฉำฉา การจะรวบรัดโค่นทีเดียว จะใช้กำลังหักหาญ ก็โค่นได้ แต่ความเสียหายและปัญหา อาจ "ขยายใหญ่-ปลายบาน" การล่อให้ธรรมกายสำแดงธาตุแท้ ว่าเป็นวัด หรือเป็นแหล่งซ่องสุมด้วยกองกำลัง และเป็นแหล่งใช้ศาสนาหลอกลวงต้มตุ๋น ให้ค่อยๆ เปลือยตัวตนออกมาทีละนิด
ก็เหมือนค่อยๆ ริดกิ่ง-ริดก้าน ใบก็ค่อยโกร๋นลงไปเรื่อยๆ เหลือแต่ต้นกลางแดดโด่ๆ และพวกด้วงหนอนโล้นที่อาศัยเจาะไชกินเนื้อในลำต้น ไปไหนก็อดตาย..........จำเจาะไชอยู่ใต้สบงพระเดชพระคุณหลวงพ่อจอมลวงโลก คอยกะล่อนลวงสาวกที่งมงายไม่ยอมเงยหน้ามองหาความจริงให้เป็นแนวร่วมไปวันๆ
เอะอะอ้างชุมนุมสวดมนต์แสนจบ-ล้านจบ แถมสวดเรี่ยราด ยืนสวด นั่งสวดเป็นกำแพงมนุษย์ขัดขวางเจ้าหน้าที่เข้าไป
มือซ้ายถือบทสวด แต่มือขวาชูสมาร์ทโฟนถ่ายรูปตำรวจ-ทหาร สมุนคอยตะโกนพากย์หลอกให้ฟังนึกว่าจริง..........."อย่าทำร้ายพระ...อย่าทำร้ายพระ...นั่นพระอย่าต่อย..อย่าต่อย" ก็ไม่เห็นมีใครต่อยพระ เห็นแต่หัวโล้น พรางหน้า-พรางตา เป็นกำแพงมนุษย์นั่นแหละ จะเป็นฝ่ายต่อย เบียดกระแทกเจ้าหน้าที่ ขัดขวางไม่ให้เข้าไป!
อันที่จริง พวกที่ห่มเหลือง คลุมหน้าคลุมหัว อ้างจะเข้าไปสวดมนต์ข้างในนั้น น่าจะตรวจใบสุทธิ ว่าเป็นพระวัดไหน พระจริง-พระปลอม ถ้าปลอมจับไปขังซะให้เข็ด เจ้าเล่ห์ เป็นผู้มืดบอดในคราบผ้าเหลือง พวกนี้ ตกนรกหลายต่อสุดบรรยาย
ถ้าเป็นพระจริงๆ ต้องรู้ การเจริญพระพุทธมนต์นั้น ต้องอยู่ในกิริยาอาการสำรวม ประกอบด้วยกาล ด้วยสถานที่ การเจริญพระพุทธมนต์ โดยเฉพาะการสวดพระปริตร ก็เท่ากับการแสดงธรรม การที่พระภิกษุรูปใด-หมู่คณะใดจะแสดงธรรมนั้น
จะยืนแสดงธรรมไม่ได้ และจะแสดงธรรมโดยไม่มีผู้กล่าวอาราธนา คือไม่มีผู้นิมนต์ก็ไม่ได้
แต่นี่ หัวโล้นสาวกสมีโย บ้างเป็นถึงมหา-มะหอย ดีแต่พล่อยธรรม-พล่ามเล่ห์ลวง ระดมคนมายืนสวด นั่งสวด อุดประตูสวด ใช้พระปริตร บทอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ไปในทางไม่สุจริตทั้งกาย-วาจา-ใจ ไม่ได้เป็นการแสดงธรรม ด้วยจิต "เข้าถึงธรรม" แต่อย่างใดเลย! การตรวจค้นอาณาจักรจานบินนั้น รู้กันแต่แรก อย่าว่าจะเจอตัวสมีโยเลย แค่ปลอกตีนโต ก็ไม่มีอยู่ให้เจอ แต่การไม่เจอ ถือว่าบรรลุเป้าหมาย มากกว่าเจอ! เพราะแค่สามารถทะลวงปราการ ตั้งแต่ด่านแรกยันด่านสุดท้ายเข้าไปค้นได้ทุกที่ในอาณาจักรจานบิน ร่วม ๒,๐๐๐ ไร่ แสดงถึง............ลัทธิธรรมกายและสมีโยเจ้าลัทธิ ถึงกาล "ล่มสลายแล้ว"!
เป็นสัญญาณ ไทยสู่ "แผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง" ทุกสิ่ง-ทุกอย่าง ที่ผิดที่-ผิดทางมานานช้า กำลังค่อยๆ กลับเข้าสู่ที่-สู่ทางที่ "ถูกต้อง-ชอบธรรม" ตามครรลอง! การที่ตำรวจ-ดีเอสไอ-พระผู้ปกครองสงฆ์ และสำนักพุทธฯ เข้าร่วมปฏิบัติการ เท่ากับว่า ทั้งทางคณะสงฆ์และทางโลก มีความเห็นเป็นไป "ในทางเดียวกันแล้ว" กรณีธรรมกาย-ธัมมชโย!
เมื่อเป็นเช่นนี้............ในสภาพ "วัดพระธรรมกาย" เป็นวัดในพระพุทธศาสนา อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ โดย "คณะกรรมการมหาเถรสมาคม" เมื่อ เจ้าอาวาส-ผู้รักษาการเจ้าอาวาส หลบหนีไป หรือถูกจับดำเนินคดีมีวัตรปฏิบัติไม่เหมาะสม อารามนั้น ขาดผู้ควบคุมดูแลทั้งพระ-ทั้งวัด ทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อันเป็นคณะสงฆ์ปกครอง จะได้สั่งการในขั้นแรก และเสนอเรื่องขึ้นไปตามลำดับชั้น จากเจ้าคณะจังหวัด สู่เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหนใหญ่
จนเรื่องถึงที่ประชุม "คณะกรรมการมหาเถรฯ" ในที่สุด เพื่อพิจารณาในเรื่องวัด และเรื่องการปกครอง
วัดพระธรรมกายจะเป็น "วัดมีเส้น" ไม่ขึ้นกับใคร เป็นเขตแดนพุทธพาณิชย์ "ขายบุญ-ขายสวรรค์" มีพฤติกรรม-พฤติการณ์มะลำ-มะเลือง แฝงการเมืองเป็นเบื้องหลังน่าสงสัย อย่างที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว
สิ่งที่บ้านเมืองและประชาชนต้องการ คือ "โอกาส" ในการชำระสะสางลัทธิธรรมกาย ให้เข้าระบบพุทธศาสนา
ตัวธัมมชโย นั่น ยังเป็นเป้าหมายรอง! เป็นแค่ตัว "บุคคลกาฝาก" ไม่ใช่ตัวเนื้อแท้พระพุทธศาสนา เมื่อขจัดพ้นไปจากพวกศรัทธางมงาย ก็เหมือนกำจัดกาฝาก สิ่งที่ต้องการ คือเนื้อที่ดำรง "ต้นไม้ใหญ่" จะได้สมบูรณ์ เมื่อหิ้วตีนหนีไป........สภาพตอนนี้ ธัมมชโยไม่ต่างเณรคำ-ยันตระ อย่างดีก็ไปเป็น "กระสือลอยไส้" อยู่ที่ไหนซักแห่ง ในหมู่คนด้อยปัญญาที่บูชาผีสาง
ฝ่ายอาณาจักรแผ้วถาง-เคลียร์ทางนำร่อง อย่างนี้.......
ย่อมไม่เป็นที่ลำบากใจกับทางฝ่ายพุทธจักร คือ มหาเถรสมาคม ที่จะชำระสะสาง "ธรรมกาย-ธัมมชโย" ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย และตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ในโอกาสต่อจากนี้bปัญหาที่เห็นๆ คือว่า วัดพระธรรมกายและวัดสาขามากมายทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงที่ใช้คำว่า "สมบัติ-ที่ดิน-เงิน" วัดพระธรรมกายสุดคณานับ มูลค่าเป็นล้านล้านบาทนั้น ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายสงฆ์ ต้องรีบชำระสาง แยกแยะ-ตรวจพิสูจน์ออกมาให้ชัดว่า มีอะไร-ตรงไหน-ที่ไหนบ้าง เป็นศาสนสมบัติ
และอะไร-ตรงไหน-ที่ไหนบ้าง สมีโยเล่นแร่แปรธาตุ เอาไปซุกไว้ในชื่อตัวเอง ชื่อคนอื่น ชื่อมูลนิธิ
เรื่องตัวสมีโย ในทางยาว จะเป็นปัญหาน้อยกว่าเรื่องสมบัติ ถ้าบริหาร-จัดการไม่รัดกุมแต่แรก จะยุ่งและยืดเยื้อ
อาจนำมาซึ่ง "ศึก" ไม่รู้จบ! ธัมมชโย จะหนีไปไหน อยู่ในหรือหนีไปนอกแล้ว ผมไม่ค่อยสนใจ เรื่องการเข้าไปสะสางการปกครองในวัดพระธรรมกาย ผมสนใจตรงนี้ เพราะวัด "ตายไม่ได้" ส่วนคน...ตอนนี้ธัมมชโยก็ ๗๐ กว่า แก่-อ่อนกันไม่กี่วันกับผม "ตายได้" เหมือนกันทั้งคู่
ฉะนั้น เอาปัญหาวัด-ปัญหาเนื้อพุทธธรรมกลับมาให้ตรงทางก่อน ถูกต้องที่สุด
****************************************ปลาย******************************* เรียนทั้งหมดของผู้เข้าชมที่รัก! ผมขอบคุณมากสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน! ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อหาเนื้อหาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดสำหรับทุกท่าน! กรุณามีความโชคดี! จาก lookingtodaytth!!! :) ********************************************************************************************************************************************************* Beauty & Health My treat bruisesHere are the experiences of a woman related to the treatment of bruises: I started puberty bruising occurred when I was very taken questions to ask his mom said as I reached the age of puberty just dont face from time to time, it's gone. A little earlier, but I agree now fully legitimate. Pretty face, which I had previously claimed no more terrible now.Research therapy I saw bruises on the face from day to day more and more my mom took me to the hospital doctors prepackaged and said swallowing the regular season slowly bruises and cuts. Some trust when doctors told that as I dont take regular timing for nearly a year and blemishes intact without reducing less. Later, Mom, I do not know what he heard from turmeric grind meters close to me every day. Before bed, I wash cleaning, apply turmeric smear turmeric every day makes my face yellow looking glass gradually found themselves formidable painted saffron for some time, but the last is also zero, I canceled again because it can not go out with the front yellow like this ever. 3rd cousin sister was advised to use a Malay Malay healing bruises box is not cheap, but I thought maybe it was too expensive and too expensive to be effective. Painted the first few days saw a soft face bruised some wine, I am very happy to see such good condition. Happy grieve not long back when painted all Galilee, I stopped using not a week bruising back. I was too frightened to tell mom bought her mom about Malaysia is not good to stop using, but more than ever. Talk talk, but he's still buying, but 2nd box bruises no longer up worse than before I decided to stop using. Raise any dont also bring about hope and turned despair behind me, let me surrender completely and although family and friends try to encourage, however, still feel I still sucks very tired, I did not dare to depart but if necessary, I also mask nearby and wearing glasses again no one could see that I was not. And I would not attend any school activities for fear I became a theme for all of you to learn more inferior.
Post a Comment